Main Menu

Recent posts

#1

ในที่สุดตลาดซื้อขายนักเตะประจำซัมเมอร์ปี 2023 ได้ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะลีกที่แฟนบอลจับตากันมากที่สุดในโลกอย่างอังกฤษ ที่มีการย้ายกันอย่างเนืองแน่น ที่ในบทความนี้จะมาเน้นไปยังกลุ่ม TOP 6 หรือเหล่าขาใหญ่ของลีกกัน ที่ทั้ง 6 ทีมประกอบไปด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ซิตี้ และ สเปอร์ ซึ่งปัจจุบันทั้งหมดต่างถูกยกให้เป็นกลุ่มมหาอำนาจของลีก

-   อาร์เซน่อล
ดีแคลน ไรซ์ ย้ายมาจาก เวสต์แฮม ค่าตัว 116 ล้านยูโร
ไค ฮาเวิร์ตซ์ ย้ายมาจาก เชลซี ค่าตัว 75 ล้านยูโร
ยูร์เรียน ทิมเบอร์ ย้ายมาจาก อาแจ็กซ์ ค่าตัว 40 ล้านยูโร
ดาบิด ราย่า ย้ายมาจาก เบรนท์ฟอร์ด แบบยืมตัว

-   เชลซี
มอยเซ ไคเซโด้ ย้ายมาจาก ไบรท์ตัน ค่าตัว 116 ล้านยูโร
โรมิโอ ลาเวีย ย้ายมาจาก เซาแธมป์ตัน ค่าตัว 62 ล้านยูโร
คริสตอฟ เอ็นคุนคู ย้ายมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ค่าตัว 60 ล้านยูโร
อักเซล ดิซาซี ย้ายมาจาก โมนาโก ค่าตัว 45 ล้านยูโร
นิโกลาส แจ็คสัน ย้ายมาจาก บียาร์เรอัล ค่าตัว 37 ล้านยูโร
เลสลีย์ อูโกชูควู ย้ายมาจาก แรนส์ ค่าตัว 27 ล้านยูโร
โรเบิร์ต ซานเชซ ย้ายมาจาก ไบรท์ตัน ค่าตัว 23 ล้านยูโร
ยอร์เก้ เพโตรวิช ย้ายมาจาก นิว อิงแลนด์ ค่าตัว 16 ล้านยูโร
เดวิด วอชิงตัน ย้ายมาจาก ซานโตส ค่าตัว 16 ล้านยูโร
แอนเจโล ย้ายมาจาก ซานโตส ค่าตัว 15 ล้านยูโร
ดิเอโก้ โมเรย์ร่า ย้ายมาจาก เบนฟิก้า ฟรี

-   ลิเวอร์พูล
โดมินิค โซโบสซไล ย้ายมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ค่าตัว 70 ล้านยูโร
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ย้ายมาจาก ไบรท์ตัน ค่าตัว 42 ล้านยูโร
ไรอัน กราเวนเบิร์ช ย้ายมาจาก บาเยิร์น ค่าตัว 40 ล้านยูโร
วาตารุ เอ็นโดะ ย้ายมาจาก สตุ๊ตการ์ท ค่าตัว 20 ล้านยูโร

-   แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ย้ายมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ค่าตัว 90 ล้านยูโร
มาเธอุส นูเนส ย้ายมาจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน ค่าตัว 62 ล้านยูโร
เฌเรมี่ โดกู ย้ายมาจาก แรนส์ ค่าตัว 60 ล้านยูโร
มาเตโอ โควาซิช ย้ายมาจาก เชลซี ค่าตัว 30 ล้านยูโร

-   แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ราสมุส ฮอยลุนด์ย้ายมา จาก อตาลันต้า ค่าตัว 75 ล้านยูโร
เมสัน เมาท์ ย้ายมาจาก เชลซี ค่าตัว 64 ล้านยูโร
อังเดร โอนาน่า ย้ายมาจาก อินเตอร์ ค่าตัว 52 ล้านยูโร
อัลตาย์ เบยินเดอร์ ย้ายมาจาก เฟเนร์บาห์เช ค่าตัว 5 ล้านยูโร
จอนนี่ อีเวนส์ ย้ายมาจาก เลสเตอร์ ฟรี
อัมราบัต ย้ายมาจาก ฟิออเรนตินา ยืมตัว
เซร์คิโอ เรกิล่อน ย้ายมาจาก สเปอร์ส ยืมตัว

-   สเปอร์ส
เบรนแนน จอห์นสัน ย้ายมาจาก น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ค่าตัว 55 ล้านยูโร
เจมส์ แมดดิสัน ย้ายมาจาก เลสเตอร์ ค่าตัว 46 ล้านยูโร
มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่นย้ายมา จาก โวล์ฟบวร์ก ค่าตัว 40 ล้านยูโร
เปโดร ปอร์โร่ ย้ายมาจาก สปอร์ติง ลิสบอน ค่าตัว 40 ล้านยูโร
เดยัน คูลูเซฟสกี้ ย้ายมาจาก ยูเวนตุส ค่าตัว 30 ล้านยูโร
กูเยลโม วิคาริโอ้ จาก เอ็มโปลี ค่าตัว 20 ล้านยูโร
#2

ประวัติ เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ แนวรุกทีมชาติบูร์กินาฟาโซของ แอสตัน วิลล่า
ทีมชาติ : บูร์กินาฟาโซ 72 นัด – 15 ประตู (2011-?)
สโมสรปัจจุบัน : แอสตัน วิลล่า 58 นัด – 10 ประตู (2020-?)


เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ (Bertrand Traoré) เกิดวันที่ 6 กันยายน 1995 ที่ประเทศบูร์กินาฟาโซ เริ่มเล่นฟุตบอลระดับเยาวชน กับสโมสร โอแซร์ ช่วงปี 2009-2010 จากนั้นย้ายสู่ เชลซี ในปี 2013 แล้วได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2013/14 แต่ไม่ได้ถูกใช้งาน ถูกส่งให้ วิเทสส์ (ฮอลแลนด์ ดิวิชั่น 1) ยืมตัวไปใช้งาน ลงเล่น 13 นัดรวมทุกรายการ ยิง 1 ประตู จากนั้นในฤดูกาล 2014/15 ยังเล่นในสัญญายืมตัวกับ วิเทสส์ เช่นเดิม ลงเล่น 36 นัดรวมทุกรายการ ยิง 17 ประตู

ฤดูกาล 2015/16 เชลซี ดึงตัว เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ กลับมาใช้งาน แต่เป็นเพียงแค่ตัวเลือกรอง ได้ลงเล่น 16 นัดรวมทุกรายการ (ตัวจริง 4 สำรอง 12) ยิง 4 ประตู หนึ่งในนั้นคือการยิงใส่ นิวคาสเซิล (ชนะ 5-1) และยิงใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ชนะ 5-1) ในฟุตบอลเอฟเอคัพ ซึ่งจากผลงานดังกล่าว ไม่เพียงพอต่อการสอดแทรกเป็นตัวจริง จึงถูกส่งให้ อาแย็กซ์ (ฮอลแลนด์ ดิวิชั่น 1) ยืมตัวไปใช้งาน

ฤดูกาล 2016/17 เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ ได้รับโอกาสจาก อาแย็กซ์ มาพอสมควร จะพลาดการลงสนามเพราะอาการบาดเจ็บเท่านั้น ลงเล่นในลีก 26 นัด ยิง 9 ประตูจ่าย 2 แอสซิสต์ แล้วทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในฟุตบอล ยูโรป้าลีก ลงเล่น 13/14 นัด ยิง 4 ประตู จ่าย 4 แอสซิสต์ โดยหนึ่งในนั้นคือการยิงใส่ ลียง 2 ประตู พ่วง 1 แอสซิสต์ ในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ช่วยให้ อาแย็กซ์ ผ่านเข้าชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 5-4 น่าเสียดายที่ไปแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 ได้แค่รองแชมป์

ฤดูกาล 2017/18 ลียง จ่ายเงิน 10 ล้านยูโร ซื้อตัว เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ ไปร่วมทีม แล้วกลายเป็นแกนหลักของทีมทันที เปิดซิงซีซั่นแรกด้วยการยิง 18 ประตู จาก 43 นัดรวมทุกรายการ แต่ยังพาทีมประสบความสำเร็จไม่ได้ แล้วอีก 2 ฤดูกาลต่อมา ตราโอเร่ยังเป็นกำลังสำคัญของ ลียง เช่นเดิม ลงเล่น 82 นัดรวมทุกรายการ ยิง 15 ประตู แล้วถูกส่งต่อให้ แอสตัน วิลล่า ในเวลาต่อมา

ฤดูกาล 2020/21 แอสตัน วิลล่า ซื้อตัว เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ เปิดตัวแรงเอาเรื่องด้วยการยิง 7 ประตู จ่าย 7 แอสซิสต์ จากการลงเล่นพรีเมียร์ลีก 36 นัด หนึ่งในนั้นคือการยิงใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งเหย้า (แพ้ 1-2) และเยือน (แพ้ 1-3) นั่ยรวมถึงการยิงใส่ เชลซี (ชนะ 3-1)

แต่หลังจากนั้น เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ ก็แทบไม่ได้ลงเล่นให้ แอสตัน วิลล่า อีกเลย เริ่มต้นจากอาการบาดเจ็บต้นฤดูกาล 2021/22 พอหายกลับมาก็ไม่สามารถแย่งตำแหน่งได้ อย่างไรก็ตามในฤดูกาล 2023/24 ตราโอเร่ยังอยู่กับสิงห์ผยอง ลงเล่นในฐานะตัวสำรองไปแล้ว 2 นัด (30 นาที)
#3

ชูเอา คันเซโล่ เป็นหนึ่งในผู้ที่พาทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประสบความสำเร็จอย่างมากมายมาโดยตลอด คนที่เราจะมองข้ามไม่ได้เลยก็คือเขาคนนี้ ที่เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพาทีมคว้าแชมป์ เราลองมาดูประวัติของนักเตะโปรตุเกสรายนี้กันดีก่อนดีกว่า ว่าเขามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง ก่อนจะมาถึงจุดนี้

ชื่อเต็ม    ชูเอา เปดรู กาวากู คันเซโล่
วันเกิด 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1994 (29 ปี)
สถานที่เกิด บาไรรู โปรตุเกส
ส่วนสูง 1.82 ม. (5 ฟุต 11 1⁄2 นิ้ว)
ตำแหน่ง ฟุลแบ็ก / ปีก

เส้นทางของการเป็นนักฟุตบอลของ ชูเอา คันเซโล่

การเข้าสู่เส้นทางของการเป็นนักฟุตบอลของ ชูเอา คันเซโล่ เริ่มต้นในปี 2007 ครั้งนั้นเขายังเล่นให้กับสโมสรท้องถิ่นอยู่ แต่บังเอิญว่าแมวมองของทีม เบนฟิก้า มาเจอเขา ก็เลยได้พาเข้าสู่อะคาเดมี่ในตอนนั้นนั่นเอง ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวอายุเพียงแค่ 13 ปีเท่านั้น หลังจากที่อยู่กับทีมมากว่า 5 ปี เจ้าตัวก็มีโอกาสได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ในปี 2012 และครั้งนั้นก็เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในทีมชุดใหญ่ของเขา

และ 2 ปีต่อมาในปี 2014 เขาก็ได้กลายเป็นตัวเล่นหลัก ที่ลงอย่างเป็นทางการให้กับ เบนฟิก้า แต่ในเกมแรกทำผลงานยังไม่ดี ทำให้ทีมแพ้ไป หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน บาเลนเซีย ก็ได้ยืมตัวของ คันเซโล่ ไปร่วมทีม  หลังจากนั้นก็ต้องย้ายทีมอีกครั้งหนึ่งไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน แต่ผลงานช่วงแรกอาจไม่ดีเท่าที่ควร แต่หลังจากปรับตัวได้แล้ว ฟอร์มของเขาก็กลับมาเข้าที่อีกครั้ง

จากนั้นก็เป็นทาง ยูเวนตุส ที่ดึงตัวไปร่วมทีม แล้วก็อยู่ได้เพียงแค่ฤดูกาลเดียว และในปี 2019 แมนฯ ซิตี้ ก็เข้ามาเจรจาขอซื้อตัวไปร่วมทัพ ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ และในเกมนัดแรกที่เจ้าตัวได้ลง ทีมก็สามารถเก็บชัยชนะได้ตามคาด

ในช่วงแรกของการค้าแข้งที่อังกฤษ ผลงานของ คันเซโล่ ยังไม่ดีเท่าที่ควร จนในฤดูกาล 2020-2021 เขาก็สร้างชื่อให้กับตัวเองได้ใหม่ เขายิงประตูช่วยทีมได้ถึง 3 ประตู และทำผลงานในตำแหน่งของตัวเองได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง ปัจจุบันในฤดูกาล 2023-2024 คันเซโล่ ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิค แล้วก็ยังทำผลงานได้ดีเช่นกัน

ส่วนในการช่วยเหลือทีมชาติโปรตุเกส  คันเซโล่ ลงเล่นให้กับทีมชาติในฐานะผู้เล่นชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2016  ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติทั้งหมด 75 ครั้ง และสามารถยิงประตูช่วยทีมได้ 3 ประตู

เกียรติประวัติ

เบนฟิก้า
•   แชมป์พรีเมยร่า ลีกา : 2013-14
ยูเวนตุส

•   แชมป์เซเรีย อา : 2018-19
•   แชมป์อิตาเลียน ซูเปอร์คัพ : 2018

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
•   แชมป์พรีเมียร์ลีก : 2020-21, 2021-22
•   แชมป์คาราบาว คัพ : 2020-21
#4

ปาสกาล โกรซ นักเตะชาวเยอรมันของ ไบรท์ตัน
ทีมชาติ : เยอรมัน U20 | 4 นัด 0 ประตู
สโมสรปัจจุบัน : ไบรท์ตั้น 216 นัด ยิง 27 แอสซิสต์ 39

ปาสกาล โกรซ เกิดวันที่ 15 มิถุนายน 1991 ที่ประเทศเยอรมัน เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับเยาวชน กับสโมสร ฮอฟเฟ่นไฮม์ ช่วงปี 2007-2010 ระหว่างนั้นในปี 2009-2010 ได้โอกาสเล่นในทีมสำรอง รวมไปถึงทีมชุดใหญ่ แต่ไม่ใช่ตัวหลัก ก่อนจะออกไปอยู่กับ คาร์ลสรูห์ ในปี 2011 อยู่กับทีมถึงปี 2012 ได้ลงเล่น 25 นัด แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จอะไร
หลังออกจาก คาร์ลสรูห์ เขาย้ายไปอยู่กับ อิงโกสตัดต์ แล้วกลายเป็นตัวหลักของทีม อยู่ค้าแข้งถึงปี 2017 ลงสนาม 158 นัด ยิง 17 ประตู แต่ไม่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้ อย่างไรก็ตาม โกรซมีส่วนสำคัญในการพาทีม เลื่อนชั้นสู่บุนเดสลีก้า ในฤดูกาล 2015/16 ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ ไบรท์ตั้น ในเวลาต่อมา

ปาสกาล โกรซ เปิดตัวกับ ไบรท์ตั้น ในฤดูกาล 2017/18 สัมผัสพรีเมียร์ลีกนัดแรก วันที่ 12 สิงหาคม 2017 ในเกมแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 โดยเขายืนเป็นมิดฟิลด์ร่วมกับ เดลย์ สตีเฟ่น และ ดาวี่ พร็อพเปอร์ หลังจากนั้น เขายึดตัวหลักอย่างต่อเนื่อง ผ่านไปถึงวันที่ 9 กันยายน 2017 โกรซยิง 2 ประตู พ่วง 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมชนะ เวสบรอมวิช 3-1 หลังเกมดังกล่าว โกรซได้ลงสนามทุกนัด จบฤดูกาลนั้น เขาไม่พลาดพรีเมียร์ลีกแม้แต่นัดเดียว (ตัวจริง 35 สำรอง 3)

ฤดูกาล 2018/19 ปาสกาล โกรซ มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้ลงเล่นได้เพียง 27 นัดรวมทุกรายการ แบ่งเป็นการลงเล่น พรีเมียร์ลีก 25 นัด ยิง 3 ประตู จ่าย 3 แอสซิสต์ ก่อนจะสลัดอาการบาดเจ็บ แล้วกลับมาเป็นตัวหลักในฤดูกาลต่อมา และเป็นตัวเลือกแรกเสมอ หากไม่มีอาการบาดเจ็บ
ฤดูกาล 2020/21 ปาสกาล โกรซ เริ่มต้นด้วยการเป็นสำรองในช่วง 6 นัดแรก จากนั้นกลับมายึดตัวหลักของทีมได้อีกครั้ง ผ่านไปถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2020 เขาลงเป็นตัวจริงในตำแหน่งมิดฟิลด์ร่วมกับ อีฟส์ บิสซูม่า จัดการยิง 1 ประตู ช่วยให้ทีมเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 จบฤดูกาลดังกล่าว โกรซลงเล่น 41 นัดรวมทุกรายการ ยิง 3 ประตู จ่าย 10 แอสซิสต์

ฤดูกาล 2021/22 ปาสกาล โกรซ ยังเป็นตัวหลักของ ไบรท์ตั้น เป็นสำรองบ้าง ตามความเหมาะสม ผ่านไปถึงวันที่ 7 พฤษภาคม 2022 เขายิง 1 ประตู ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ 36 ที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 จบฤดูกาลดังกล่าว เขาลงเล่น 33 นัดรวมทุกรายการ ยิง 3 ประตู 4 แอสซิสต์
ฤดูกาล 2022/23 ปาสกาล โกรซ พลาดลงเล่นพรีเมียร์ลีก เพียงแค่นัดเดียว แถมได้ลงเล่นในฐานะกัปตันทีม 2 นัด (นัดที่ 37-38) เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 และแพ้ แอสตัน วิลล่า 1-2 จบฤดูกาลนั้น เขาลงเล่น 44 นัดรวมทุกรายการ ยิง 10 ประตู จ่าย 10 แอสซิสต์ เป็นฟอร์มที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ค้าแข้งมา

ฤดูกาล 2023/24 (ปัจจุบัน) ปาสกาล โกรซ ยังอยู่กับ ไบรท์ตั้น ลงสนามไปแล้ว 2 นัด ช่วยทีมเก็บชัยชนะได้ทั้ง 2 นัด
ข้อมูลนับถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2023
#5

เมื่อฤดูหนาวมาเยือน สถานที่ท่องเที่ยวที่คนเลือกเที่ยวมากที่สุด ก็คือการเที่ยวภูเขา หรือว่าดอย เพราะจะได้สัมผัสกับบรรยากาศความหนาวอย่างแท้จริง และหนึ่งในสถานที่ที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือ ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นแหล่งเที่ยวแนวธรรมชาติที่สวยงามอย่างยิ่ง และมีอะไรที่น่าสนใจเยอะให้ได้ชม อย่างเช่นโครงการหลวงต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงดำริเอาไว้ จนถึงวันนี้ เป็นแหล่งรายได้ของชุมชนที่นี่

กิจกรรมที่น่าสนใจ
สำหรับท่านที่ไม่รู้ว่ามาที่ ดอยอ่างขาง จะเที่ยวอะไรบ้าง เราก็มีสถานที่ที่น่าสนใจมาแนะนำทุกท่าน ได้แก่
• ชมหมู่บ้านหลวง เป็นหมู่บ้านของชาวจีนฮ่อ ซึ่งอพยพมาจากยูนานตั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทำเกษตรเป็นหลัก
• ชมแปลงสาธิต ได้แก่สวนผัก ผลไม้ และพืชเมืองหนาวอื่นๆ
• หมู่บ้านขอบด้ง เป็นหมู่บ้านของชาวมูเซอ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสความเป็นอยู่ของชาวมูเซอ ว่าเขามีวิธีชีวิตเป็นอย่างไร จะได้เห็นความสวยงามของหมู่บ้าน และวัฒนธรรมที่แตกต่างจากเรา และในหมู่บ้านก็จะมีคนพานำเที่ยว นั่นก็คือมัคคุเทศก์ประจำหมู่บ้าน อย่างเช่นเด็ก ที่ผ่านการอบรมมาแล้ว เข้ามานำเยี่ยมชม พร้อมกับอธิบายความเป็นอยู่ให้นักท่องเที่ยวได้รู้ได้เข้าใจมากขึ้น
• หมู่บ้านนอแล เป็นหมู่บ้านของชีวิตชาวปะหล่อง ซึ่งมาจากพม่า ที่นี่เราจะได้เห็นความเป็นอยู่อีกแบบ ทั้งภาษา วัฒนธรรมที่แตกต่าง แต่ว่าชาวบ้านหมู่บ้านที่นี่ นับถือศาสนาพุทธ ดังนั้นเราจึงได้เห็นชาวบ้านหลายคนถือศีล ยิ่งถ้าเป็นวันพระ คนจะหันมาถือศีลกันเยอะขึ้น และที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือวิวของหมู่บ้าน ที่เราจะได้เห็นวิวธรรมชาติอย่างแท้จริงระหว่างไทยพม่า
• จุดชมวิว ที่จุดกิ่วลมชนิด เป็นจุดที่เอาไว้ชมความงามของพระอาทิตย์ ทั้งขึ้นและตก บอกเลยว่าจุดนี้สวยงามมาก แต่จะต้องตื่นเช้าหน่อย ถึงจะทันเวลาพระอาทิตย์ขึ้น บางวันอาจจะได้เห็นทะเลหมอกในยามเช้าด้วยโดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว
• ศึกษาธรรมชาติ เป็นการเดินชมความงามของธรรมชาติ มีระยะทางทั้งหมด ประมาณ 2 กิโลเมตร เราจะได้เห็นการปลูกป่าทดแทน เป็นความงามอย่างแท้จริง บางจุดมีน้ำตกให้ได้ชมอีกด้วย ใครมาเที่ยวต้องไม่ลืมมาชมความงามเหล่านี้

การเดินทาง
สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ รถไฟ และรถโดยสารได้เลย คนที่ไม่มีประสบการณ์ขับรถบนเนินเขามาก่อน ต้องมีประสบการณ์ เพราะว่าหนทางค่อนข้างเสี่ยงในบางจุด

ค่าบริการในการเข้าชม
ฟรี

ที่พัก

ที่ดอยอ่างขาง มีที่พักให้เลือกเยอะเลย ราคามีตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน ตามคุณภาพและความสวยงามของวิวทิวทัศน์ มีทั้งแบบพักเดี่ยว แบบคู่ และแบบครอบครัว

สถานที่ตั้งของ ดอยอ่างขาง
ตั้งอยู่ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
#6

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย

ภูชี้ฟ้า เป็นที่เที่ยวอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวเลือกมา โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว จะมีนักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ คนที่ชอบธรรมชาติ ชอบเดินป่า ไม่ควรมองข้ามเลย มาเที่ยวที่นี่ คุ้มมากๆ กับบรรยากาศที่คุณได้รับกลับไป แม้ว่าคุณจะเคยเที่ยวธรรมชาติมาแล้วหลายที่ แต่ถ้ายังไม่ได้มาที่ ภูชี้ฟ้า เหมือนกับว่าคุณยังขาดอะไปอยู่ ยังไม่ได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามเหมือนสวรรค์ของที่นี่

เหตุผลที่ต้องชื่อว่าภูชี้ฟ้า ก็เพราะว่าเป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดที่ติดระหว่างไทยกับลาว และด้วยลักษณะของถูที่เป็นปลายแหลม และชี้ไปทางประเทศลาว คนจึงเรียกกันว่าภูชี้ฟ้า ซึ่งเป็นจุดที่สวยงามที่สุดด้วย ถือว่าเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องขึ้นมาเที่ยวให้ได้สักครั้ง เพื่อชมความสวยงามของที่นี่  ซึ่งเป็นจุดที่สูงจากน้ำทะเลถึง 1,700 เมตร ดังนั้นเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ จึงไม่ต้องห่วง เช่นนั้นนักท่องเที่ยวของไม่มาเยอะทุกปี

ที่เที่ยวที่น่าสนใจ
เมื่อมาที่ภูชี้ฟ้า สิ่งที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่ ก็คือการชมวิว ชมธรรมชาตินั่นเอง อย่างเช่นการชมทะเลหมอก ก็เป็นเป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ หากต้องการชมทะเลหมอก คุณต้องตื่นเช้าหน่อย ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น ถึงจะทันดูทะเลหมอก เพราะหลังจากที่พระอาทิตย์ขึ้น หมอกก็จางไปหมด รับรองเลยว่า ความสวยงามของทะเลหมอกที่นี่ คุ้มค่ากับการตื่นขึ้นมาดูแน่นอน
ถ้าจะเที่ยวภูชี้ฟ้าให้ได้ความฟินสุดๆ ต้องเลือกฤดูกาลที่จะเที่ยวด้วย และช่วงที่เหมาะกับการเที่ยวก็คือช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะอากาศจะเหมาะกับการเที่ยวที่สุด แต่ไม่ว่าจะมาเที่ยวในช่วงหน้ารอนหรือหน้าหนาว อากาศบนภูชี้ฟ้าก็เย็นชื่นใจอยู่ตลอด แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว อากาศก็จะยิ่งเย็นขึ้นไปอีก นักท่องเที่ยวต้องเตรียมความพร้อมมาให้ดี โดยเฉพาะเสื้อกันหนาว ไม่เช่นนั้นจะลำบากมาก

การเดินทาง
สามารถเดินทางได้ทั้งเครื่องบิน รถไฟ รถยนต์ส่วนตัว และรถจักรยานยนต์ แต่ถ้าจะขึ้นไปชมวิวบนจุดชมวิว ต้องเดินเท้าต่อขึ้นไปอีก 1 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางระหว่างนี้จะค่อนข้างอันตราย และความสูงชัน นักท่องเที่ยวต้องใช้ความระมัดระวังตลอดเส้นทาง

ค่าบริการในการเข้าชม: ฟรี

ที่พักและอาหาร
ที่ภูชี้ฟ้า ไม่มีบ้านพัก หรือว่ารีสอร์ทให้เช่า หากนักท่องเที่ยวต้องการพักค้างคืน ต้องเตรียมเต้นท์ไปกางเอง ส่วนเรื่องอาหาร นักท่องเที่ยวก็ต้องเตรียมไปเองทั้งนั้น โดยทางอุทยาน จะอำนวยความสะดวกในเรื่องสถานที่ในการกางเต้นท์ การดูแลความเรียบร้อย และห้องน้ำห้องสุขา

สถานที่ตั้งของ ภูชี้ฟ้า
ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ติดชายแดนไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อยู่ในพื้นที่เขตอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย

#7

ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีที่ท่องเที่ยวหลากหลายแบบครบจบในที่เดียวที่พร้อมจะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เลือกกันตามใจชอบ ไม่ว่าจะเกาะที่สวยงามพร้อมด้วยน้ำทะเลและหาดทรายที่มีเอกลักษณ์ หรือจะเป็นแนวเดินป่าชมธรรมชาติ มีเยอะจนเลือกกันไม่รู้เบื่อ และวันนี้จะมีแนะนำให้รู้จักกับที่เที่ยวสุด UNSEEN ที่น่าไปเที่ยวน่าสัมผัสที่สุดในปี 2023 ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามีสถานที่เหล่านี้อยู่ด้วย จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันได้เลย

5 ที่เที่ยวลับสุด UNSEEN ในปี 2023

1.เกาะเญอลาปี อยู่ที่จังหวัดปัตตานี
เริ่มสถานที่แรกด้วยเกาะสุดสวยที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะเกาะที่สุดยอดขนาดนี้ในไทยด้วย นั่นก็คือ เกาะเญอลาปี เกาะที่อยู่ในจังหวัดปัตตานีภาคใต้ของไทย ที่นี่อาจจะไม่ได้ถูกพูดถึงมากนักในกลุ่มนักท่องเที่ยวในประเทศ แต่หากเป็นชาวต่างชาติ นับได้ว่านี่คือเกาะสวรรค์อย่างแท้จริง โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบการดำน้ำย่อมต้องมาสักครั้ง เพราะที่นี่มีที่ระบบนิเวศน์อุดมสมบูรณ์, มีปะการังสวยงามที่มีเฉพาะที่นี่ที่เดียว, พันธุ์ปลาหายากที่หาดูที่ไหนไม่ได้และมีวิวทิวทัศน์สุดน่าประทับใจอยู่เต็มไปหมด

2.ทุ่งกะมัง จังหวัดชัยภูมิ
นี่คือสถานที่มีมีทุ่งหญ้าตามธรรมชาติที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา กับเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ ล้อมรอบไปด้วยสัตว์ป่ามากมาย มีป่าดิบเขา ป่าสน ทั้งทุ่งกว้างตรงกลางที่เต็มไปด้วยสัตว์หลากหลายชนิด นับได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ชอบแนวนี้แน่นอน

3.ทุ่งกังหันลม จังหวัดเพชรบูรณ์
ถ้าพูดถึงเพชรบูรณ์หลายคนถึงนึกถึงเข้าค้อไม่ก็ถูทับเบิก แต่อาจจะไม่รู้จักทุ่งกังหันลม สถานที่ที่เต็มไปด้วยกังหันลมมากมายที่ตั้งอยู่ตามเชิงเขาที่เขาค้อนั่นเอง ที่นี่สามารถมองเห็นได้จากที่ไกลๆที่สวยมากแล้ว หากเข้าไปใกล้ๆจะยิ่งสวยมากกว่าด้วย เพราะเต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม มีอากาศดีเย็นสดชื่นตลอดทั้งปี หากว่ามีโอกาสต้องมาพลาดมาสูดอากาศที่หาที่ไหนไม่ได้ที่นี่สักครั้งในชีวิต

4.ภูพระ จังหวัดเลย
ที่นี่เหมาะกับสายมูอย่างแท้จริง เพราะเต็มไปด้วยพระพุทธรูปปางสมาธิมากกว่า 1,250 องค์ ที่ตั้งเรียงรายกันอยู่บนภูสูง นอกจากจะได้ไปเคารพบูชาแล้ว ยังได้สัมผัสธรรมชาติที่งดงามไปในตัวด้วย เรียกได้ว่าหากชื่นชอบแนวนี้ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

5.เกาะผ้า จังหวัดพังงา
และที่สุดท้ายที่จะแนะนำกันในวันนี้คือที่นี่ เพราะที่นี่เป็นเกาะที่ไม่เหมือนใคร มีความสวยงามสุดพิเศษ เอกลักษณ์คือยามน้ำลงจะเป็นทะเลแหวกกลางที่เราสามารถลงไปเดินเล่นได้ วิวที่ได้สุดยอดอย่างที่จินตนาการไม่ถูก น้ำทะเลที่นี่ใสสะอาดอย่างที่สุด นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง เช่น ล่องเรือชมความสวยงาม หรือจะดำน้ำดูปะการังกับปลาสวยงามได้หมดตามต้องการ
#8

วัดในประเทศไทยนั้นมีอยู่เยอะมากๆ เพราะคนไทยส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ และมีความรักผูกพันกับวัดมาอย่างยาวนาน ซึ่งบทความนี้จะมาเจาะลึกกันยังวัดทางภาคเหนือที่น่าเที่ยวน่าสนใจ น่ามาเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิตนี้ โดยได้คัดเอาวัดที่น่าสนใจมาฝาก 4 สถานที่ 4 วัดด้วยกัน ที่รับประกันว่าคุ้มค่าในการมาเยี่ยมเยียนอย่างแน่นอน

4 วัดภาคเหนือที่น่ามาสัมผัสด้วยตัวเอง

1.วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย
เริ่มด้วยวัดแรกที่อยากแนะนำที่ไม่ควรพลาด เพราะนี่คือวัดที่โด่งดังไปทั่วโลก นั่นก็คือ วัดร่องขุ่น ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทยอย่างเชียงราย วัดนี้ผู้สร้างก็คือ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ นักศิลปะชื่อดังของบ้านเรา ที่สร้างวัดนี้ด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้าด้วยจิตศรัทธาในทุกพื้นที่ จนออกมาเป็นงานประติมากรรมชั้นเลิศที่สุดสวยงดงามตระการตา มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความสิริมงคลหลายแห่ง แล้วยังสอดแทรกไปด้วยคำสอนมากมาย วัดนี้ต้องบอกว่าโด่งดังติดอันดับต้นๆของไทยเลยทีเดียว ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยี่ยมชนกันไม่ขาดสาย นับได้ว่านี่คือวัดที่ควรค่าแก่การมาอย่างมาก

2.วัดร่องเสือเต้น จังหวัดเชียงราย
วัดที่อยากแนะนำต่อมายังคงอยู่ในจังหวัดเชียงรายเหมือนเดิม นั่นก็คือ วัดร่องเสือเต้น จุดเด่นของวัดนี้คือสีน้ำเงินที่อยู่ในทุกส่วนทุกพื้นที่ของตัววัด เป็นงานสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และเป็นงานศิลปะที่สวยสดงดงามตระการตายามได้รับชม สถานที่แห่งนี้ยังเป็นอีกที่ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมากราบไหว้บูชากันอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งปี

3.วัดเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดลำปาง
นี่คือวัดที่ตั้งอยู่บนหุบเขาอย่างสวยงามอร่ามตา ที่นี่มีชื่อเรียกอีกชื่อสำหรับคนท้องถิ่นว่า วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง สำหรับวัดนี้มีการสร้างอย่างยาวนานกว่า 10 ปี เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสร้างได้สะดวกบนยอดเขาที่สูงชัน แต่ด้วยความเชื่อเหลือกันของชาวบ้านในการมีแรงศรัทธา ในที่สุดวัดที่สวยงามที่ทุกคนต้องการเห็น ก็แล้วเสร็จสมบูรณ์ จนกระทั่งในเวลาต่อมาวัดนี้ก็ได้โด่งดังไปไกลยังทั่วโลก ด้วยความมีเอกลักษณ์ที่หาที่ไหนได้ยาก หากได้ลองมายังลำปาง อย่าพลาดที่จะมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง

4.วัดพระธาตุดอยกองมู จังหวัดแม่ฮ่องสอน
นี่คือวัดคู่บ้านคู่เมืองของแม่ฮ่องสอนมานาน มีความสวยงามอย่างที่สุดตั้งอยู่บนยอดภูเขากองมู เมื่อมาถึงวัดนี้แล้ว จะเห็นงานศิลปะสุดสวยงามมากมาย เป็นการผสมผสานไทยกับพม่าได้อย่างลงตัว ทั้งยังมีจุดชมวิวที่มองเห็นได้ทั้งแม่ฮ่องสอนเลยทีเดียว ได้ทั้งบุญได้ทั้งวิวที่ดี ที่นี่เหมาะมากๆแก่การมาเยือน